นาม

 นาม : นั่นก็เจ้า นี่ก็เจ้า โน่นก็เจ้า ก็เจ้าแหละที่ข้าหมายถึง

เมื่อเรารับรู้แล้วว่า นั่นก็รูป นี่ก็รูป โน่นก็รูป เราก็จะมีปัญหาตามมาครับ ว่า เราไม่รู้ว่า โน่น นี่ นั่น ที่เราพูดถึงหนะ หมายถึงใคร 


ตัวอย่างเช่น ในกลุ่มนึงมี 10 คน  

ผมเรียกทุกคนว่า เธอ   เธออย่างนั้น เธออย่างนี้ 

คือ ผมรู้ถูกไหมว่า ผมคุยกับใคร

คราวนี้ ผมก็อยากถาม เธอ คนหนึ่ง ผมก็ ถามเลย เธอ! ชอบอันนี้ไหม  คราวนี้ละ ทั้ง 9 คนตอบมาพร้อมกันเลย คนนึงบอกชอบ อีกคนนึงบอก ไม่ชอบ บางคนให้เหตุผลประกอบด้วยนะ 

ผมรู้ว่า ผม พูดกับใคร แต่ เธอ เธอ และเธอ ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่า ผมหมายถึง เธอ คนไหนนะสิ


ดังนั้นเพื่อจะแก้ปัญหานี้ เราจึง ตั้งชื่อ ให้กับสิ่งต่างๆ ที่จะระบุชี้ชัดถึง สิ่งที่เรากำลังอ้างอิงถึง หรือระบุการชี้เป้าหมาย นั่นเอง

และแน่นอน การชี้เป้านี่แหละ ที่เราเรียกว่า สัญญา


เจ้านั้นมี นาม ว่าเช่นไรหรือ ?

เราไม่ได้ใช้การตั้งชื่อ ให้กับเพรียงแค่คนเท่านั้น เรายังใช้เรียกสิ่งต่างๆ อาการ กริยา ท่าทาง จินตนาการ อาหาร สถานที่ แล้วก็อื่นๆอีกมากมาย

นอกจากนี้ ยังมีนามในรูปแบบ สัญลักษณ์  อย่างเช่น เมื่อคุณ เห็น สิ่งนึง คุณก็รู้เลยว่า เขากำลังหมายถึงสิ่งใด นึกภาษา พวก มาสขอต หรือ โลโก้ก็ได้

เห็นไหมว่า จากตอนแรก สิ่งเหล่านั้น ก็เป็น รูป อยู่ดีๆ  ตอนนี้กลับย้ายที่มาเป็น นาม เฉยเลย

ดังนั้น จะดูว่า สิ่งไหนเป็น รูป สิ่งไหนเป็น นาม เราจึงดูที่ การชี้ → ของสัญญา ว่า ชี้ไปทางไหนนะ อะไรชี้อะไรนั่นเอง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้